รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ควรขับขี่อย่างไรหากไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ ?

Last updated: 11 พ.ย. 2566  |  964 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ควรขับขี่อย่างไรหากไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ ?

รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 สภาพดี (รถโฟล์คลิฟท์มือสอง) เป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนตามหา เนื่องจากรถโฟล์คลิฟท์เป็นรถเพื่อการใช้งาน ไม่ใช่รถที่ใช้เพื่อขับขี่โดยทั่วไป ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต่องานในโรงงานเป็นอย่างมาก ในทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ต่างก็ต้องมีรถโฟล์คลิฟท์อยู่ภายในองค์กร

บทความนี้เราจะขอแนะนำการใช้งานรถให้ปลอดภัย โดยเน้นไปที่รถแบบ “ไฟฟ้ายืนขับ” ป้องกันปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดอย่างการพลิกคว่ำ พร้อมแนะนำว่าการซื้อรถมือ 2 ดีอย่างไร มั่นใจได้เลยว่าอ่านบทความนี้จบ คุณจะได้แนวคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย !!

การพลิกคว่ำ คืออันตรายที่ร้ายแรงที่สุดของการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ มือ 2
รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ไฟฟ้าแบบยืนขับ เป็นรถที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป ด้วยสรีระของรถทำให้สามารถทำงานได้ภายในโรงงานที่มีพื้นที่จำกัดได้ดี เนื่องจากหักเลี้ยวง่าย ไม่ต้องตีวงกว้าง แต่ก็ต้องแลกมากับอันตรายของผู้ขับขี่ที่มากกว่าแบบนั่งขับ

หากเปรียบเทียบกับรถที่เราคุ้นเคย รถแบบยืนขับคงเป็นเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็น “เนื้อหุ้มเหล็ก” แตกต่างจากรถนั่งขับที่เป็นเหมือนรถยนต์ที่เป็น “เหล็กหุ้มเนื้อ” ดังนั้นต้องใช้ความระมัดระวังระหว่างการใช้งานเป็นอย่างสูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้ที่อยู่รอบข้าง

ป้องกันอย่างไรหากไม่อยากให้รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 เกิดการพลิกคว่ำ ?
หากตอนนี้คุณสนใจรถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ไฟฟ้าแบบยืนขับ แต่ยังไม่รู้ถึงการใช้งานให้ปลอดภัย แนะนำว่าคุณต้องการเนื้อหาต่อจากนี้อย่างละเอียด เพราะเราได้นะเนื้อหาจากคู่มือการใช้งาน มาขยายความให้อ่านง่ายมากยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุระหว่างการทำงานให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากคุณไม่อยากเจอกับสถานการณ์เลวร้ายอย่าง “รถโฟล์คลิฟท์พลิกคว่ำ” เชิญอ่านเนื้อหาต่อจากนี้ได้เลยครับ

• ฝึกอบรมเกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ให้ผู้ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด

ไม่ว่าจะเป็นรถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 หรือ มือ 1 ผู้ขับขี่ก็ต้องมีความชำนาญที่สูง ผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การขับขี่มาเป็นอย่างดี และจะต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างถูกต้อง พร้อมกับรับรู้ถึง สามเหลี่ยมเสถียรภาพ (stability triangle) ซึ่งเป็นหลักการความปลอดภัยที่คำนวณถึง ขีดจำกัดการบรรทุก จุดศูนย์ถ่วงของรถ เพื่อป้องกันไม่ให้รถเกิดการพลิกคว่ำนั่นเอง

• อุปกรณ์ป้องกันของรถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ต้องพร้อม
จากที่เราได้เกริ่นไปแล้วว่ารถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ไฟฟ้าแบบยืนขับ เป็นรถที่มีลักษณะ “เนื้อหุ้มเหล็ก” เนื่องจากโดยส่วนมากจะไม่มีในส่วนของโครงหลังคา เพื่อป้องกันสิ่งที่ร่วงหล่นมาใส่ผู้ขับขี่ รวมไปถึงไม่มีเข็มขัดนิรภัยที่ยึดไม่ให้ผู้ขับขี่กระเด็นออกไปเกิดอันตรายหากเกินการพลิกคว่ำ ดังนั้นสิ่งที่ผู้ขับขี่จะทำได้ก็คือ “สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน” ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น แว่นตานิรภัย หมวกนิรภัย รองเท้านิรภัย อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยชีวิตผู้ที่ทำงานภายในโรงงานได้นับไม่ถ้วนในทุกปี

• ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ตามมาตรฐานความปลอดภัย
แม้ว่าผู้ขับขี่จะมีความชำนาญทางด้านการควบคุมรถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุมักมากับความประมาทเสมอ การขับขี่โดยเพิกเฉยต่อมาตรฐานความปลอดภัย คือสาเหตุของอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์อันดับต้น ๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความเร็วที่สูงจนเกินไป การโค้งหักศอกที่ขาดความระมัดระวัง การบรรทุกสินค้าเกินศักยภาพของตัวรถ และการขับขี่บนเส้นทางที่อันตราย มีความลาดเอียง มีสิ่งกีดขวางเส้นทางเดินรถ เป็นต้น

ประโยชน์ของการเลือกใช้รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 ยืนขับแบบไฟฟ้าในองค์กร
รถโฟล์คลิฟท์ มือ 2 มีให้เลือกใช้หลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กรของคุณว่าต้องการรถประเภทไหน แต่สำหรับบทความนี้เราจะขอแนะนำเน้นไปที่ “รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบยืนขับ” มาดูกันว่ารถประเภทนี้ เมื่อคุณนำเข้ามาใช้งานในองค์กร จะมีข้อดีอย่างไรกันบ้าง ?


• ประหยัดงบประมาณ รถมือ 2 มีราคาที่ถูกกว่ามือ 1 อยู่มากพอสมควร อาจต่างกันมากถึงครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว
• ไม่ต้องแบกรับค่าเสื่อมราคา ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีอัตราการเสื่อมของราคาที่เร็วขึ้น การซื้อรถมือ 1 ในราคา 1 แสน อาจลดเหลือหลักหมื่นภายในระยะเวลาไม่นานหลังจากซื้อ
• มีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน รถแบบไฟฟ้าไม่มีเขม่าควัน ไม่ทำให้สินค้าเกินการปนเปื้อน ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความสะอาดสูง
• ไม่ต้องรอคิวจากการสั่งซื้อ รถมือ 2 จะเป็นสินค้าที่สั่งซื้อปุ๊บ ได้ใช้งานปั๊บ ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องจองรถ เหมือนรถมือ 1 ในบางรุ่น
• ค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า รถแบบไฟฟ้า เมื่อเทียบกับรถแบบน้ำมัน จะมีการบำรุงที่น้อยกว่า เนื่องจากชิ้นส่วนมีการเคลื่อนไหวน้อยกว่ารถแบบไฟฟ้านั่นเอง
• ปรับแต่งได้ง่าย รถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว สามารถปรับแต่งรถได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมอุปกรณ์ต่อพ่วง เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานของรถให้มากยิ่งขึ้น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้